วธ.จัดงบ 200 ล้านสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทย


เมื่อ เร็วๆนี้ นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่าจากการประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ครั้ง ที่ 1/2553 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 19 กระทรวงวัฒนธรรมคณะอนุกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสนับสนุน กิจกรรมหรือโครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ได้พิจารณากำหนด จัดสรรวงเงินเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ จากงบประมาณตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕ ที่กระทรวงวัฒนธรรมได้รับมาในงวดแรก จำนวน 200 ล้านบาท

โดย ที่ประชุมได้กำหนดวงเงินในการแบ่งงบประมาณออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เป็นงบเพื่อการสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์และวีดิทัศน์ โดยให้จัดไว้เพื่อสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ซึ่งมีแนวทางการพิจารณาจัดสรรกระจายสนับสนุนในการสร้างภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ให้ครบทั้ง 5 ประเภทหรือกลุ่มคือ ภาพยนตร์เรื่องยาว อย่างน้อย 1 เรื่อง วงเงิน 160 ล้านบาท ภาพยนตร์สั้น/สารคดี/หรือนอกกระแส อย่างน้อย 10 เรื่อง วงเงิน 10 ล้านบาท ภาพยนตร์ชุดหรือละครชุด อย่างน้อย 1 เรื่อง วงเงิน 10 ล้านบาท แอนิเมชัน อย่างน้อย 5 เรื่อง วงเงิน 10 ล้านบาท เกม อย่างน้อย 5 เกม วงเงิน 10 ล้านบาท และพิจารณาถึงความพร้อมในการเตรียมการสร้างภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ที่ผู้ขอรับการสนับสนุนสามารถใช้จ่ายเงินที่ได้รับการสนับสนุนให้เสร็จสิ้น ในปีงบประมาณ 2553 รวมทั้งผลงาน ประสบการณ์ความสามารถในการสร้างภาพยนตร์และวีดิทัศน์ของผู้ขอรับการสนับสนุน ระยะเวลาที่ใช้ในการสร้างภาพยนตร์และวีดิทัศน์จนแล้วเสร็จของโครงการ และในส่วนที่ 2 เป็นงบเพื่อใช้จ่ายในการบริหารโครงการ โดยหากใช้ไม่หมดก็ให้นำเงินที่เหลือมาจัดสรรสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์และวี ดิทัศน์ได้

นายธีระ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การ จัดสรรงบดังกล่าวมีทั้งส่วนที่เป็นการให้เปล่าและส่วนที่ต้องมีการส่งรายได้ กลับคืนไปยังรัฐบาล โดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และเนื้อหาของชิ้นงานที่ผลิตออกมา ซึ่งขณะนี้มีผู้ติดต่อขอรับการส่งเสริมมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงหนังเรื่องไหนเป็นพิเศษ เนื่องจากต้องถูกนำเข้าที่ประชุมก่อน โดยที่ประชุมจะพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ได้มีการอนุมัติไป” สำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการขอรับการส่งเสริมโครงการและกิจกรรมภาพยนตร์ และวีดิทัศน์ คณะอนุกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสนับสนุนกิจกรรมหรือโครงการ ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ได้จัดทำระเบียบคณะกรรมการภาพยนตร์ และวีดิทัศน์แห่งชาติ โดยจะมีอนุคณะกรรมการพิจารณาและกำหนดหลักเกณฑ์ ทั้ง 5 ประเภทหรือกลุ่ม โดยมอบหมายให้สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม เป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานและประกาศผลผู้ที่ได้รับการคัดเลือกต่อไป

ใส่ความเห็น