รายงานด่วน ภาพยนตร์เรื่อง Frontier(s) ถูกกระทรวงวัฒนธรรมสั่งแบน


“สวช.จะเซ็นเซอร์แบบกัลยาณมิตร ยึดผลประโยชน์ของผู้รับสื่อเป็นหลัก และไม่ลืมคำนึงถึงผู้สร้างด้วย”

ปรีชา กันธียะ เลขาธิการ สวช. ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2551

ดังที่ทุกท่านได้ทราบ หรือบางท่านอาจจะยังไม่ทราบ ว่าในขณะนี้ ภารกิจในการตรวจพิจารณาภาพยนตร์ฉายในโรง ได้ตกเป็นของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งค่ายหนังทุกค่ายจะต้องส่งหนังเพื่อทำการเซ็นเซอร์ ที่หน่วยงานสำนักภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณของ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

ขณะนี้ การดำเนินการได้เริ่มต้นมาพักหนึ่งแล้ว โดยแม้ว่าตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 จะระบุว่า

“ในการตรวจพิจารณาภาพยนตร์ตามมาตรา 25 ให้คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์กำหนดด้วยว่าภาพยนตร์ดังกล่าวจัดอยู่ในประเภทใด ดังต่อไปนี้”

แม้กฎหมายจะเขียนเอาไว้เช่นนี้ แต่เนื่องจากในขณะนี้ ทางกระทรวงวัฒนธรรมอ้างว่า กฎกระทรวงที่ใช้ในการจัดเรตติ้งภาพยนตร์ยังไม่ได้ส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ทางกระทรวงวัฒนธรรม จึงเลือกที่จะใช้วิธีการ “เซ็นเซอร์” ไปพลางๆก่อน โดยได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเซ็นเซอร์ชุดหลักขึ้นมา 7 คน ดังนี้

นายปรีชา กันธิยะ เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ เป็นประธาน

(นายปรีชา กันธิยะ คือผู้ที่เคยออกมาต่อต้านชื่อหนัง “ผีกระชากหัว” อย่างรุนแรง โดยบอกว่าผู้ที่ปล่อยให้มีชื่อหนังแบบนี้ออกมาสมควรถูกลงโทษ และนอกจากนี้ นายปรีชายังดำรงตามแหน่งตามกฎหมายนี้ในการเป็นนายทะเบียนกลาง มีหน้าที่ในการเข้าตรวจค้นโรงภาพยนตร์ ตลอดจนร้านขายซีดีต่างๆในกรุงเทพมหานคร)

นายสงขลา วิชัยขัทคะ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา

นายอำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม

นายชัยวัฒน์ ทวีวงศ์แสงทอง เลขาธิการสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ

นายสมบัติ ภู่กาญจน์ คอลัมนิสต์และผู้ทรงคุณวุฒิด้านศิลปวัฒนธรรมและสื่อสารมวลชน

พลเอกธันวาคม ทิพยจันทร์ ที่ปรึกษาสมาคมนักข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทย

นางนพพร มุกดามณี รองเลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการ

และนอกจากนี้ ยังมีการแต่งตั้งคณะกรรมการอีกชุดหนึ่งขึ้นมาเพื่อช่วยงานในการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ ซึ่งเข้าใจว่า เป็นคณะกรรมการเซ็นเซอร์ชุดที่น่าจะกำลังปฏิบัติงานอยู่ในขณะนี้ด้วยเช่นกัน

ฟังๆดูจากคำให้สัมภาษณ์ของนายปรีชา กันธิยะ ที่บอกว่าจะ “เซ็นเซอร์แบบกัลยาณมิตร” คำนึงถึงประโยชน์ของผู้สร้าง และผู้ชมเป็นหลักนั้น อาจทำให้ผู้ชมบางส่วนรู้สึกเบาใจว่าคงจะไม่มีอะไร

ขณะที่ช่วงตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงที่คณะกรรมการเซ็นเซอร์ชุดใหม่เริ่มปฏิบัติหน้าที่ ภาพยนตร์หลายเรื่องยังดูออกฉายตามปกติ ซึ่งสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่ยังไม่มีความแน่ชัดในการดำเนินการ

อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการเซ็นเซอร์ชุดใหม่ได้เริ่มปฏิบัติงานอย่างจริงจัง ซึ่งผลที่ตามมา ก็คือคณะกรรมการเซ็นเซอร์ชุดใหม่ได้แผลงฤทธิ์ให้ทุกคนได้ประจักษ์แก่สายตา ด้วยการสั่งไม่อนุญาตให้ภาพยนตร์แนวสยองขวัญจากฝรั่งเศสเรื่อง Frontier(s) ออกฉาย ด้วยเหตุผลที่ว่า ภาพยนตร์มีเนื้อหารุนแรงโดยที่ไม่มีเหตุผล

แม้ว่าตามกฎกระทรวงที่ได้มีการร่าง และคาดว่าน่าจะเสร็จสิ้นแล้ว ภาพยนตร์เรื่อง Frontier(s) ควรจัดอยู่ในเรต น.18 หรือ น.20 และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่ได้มีเนื้อหาที่ขัดต่อกฎหมายข้อใดๆที่มีอยู่ในขณะนี้ แต่เนื่องจากทางกระทรวงวัฒนธรรมเลือกใช้วิธีการเซ็นเซอร์ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน และเนื่องจากทุกอย่างฉุกละหุกมาก ทางเจ้าของหนังจึงยังไม่ได้มีการยื่นอุทธรณ์ หรือดำเนินการอย่างอื่น ตัวหนังจึงอยู่ในสภาพ “ถูกแบน” ไปโดยปริยาย จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ เดิมมีกำหนดที่จะเข้าฉายในช่วงสิ้นเดือนนี้ และมีกำหนดที่จะฉายรอบสื่อมวลชนในสัปดาห์นี้ เมื่อผลออกมาเป็นเช่นนี้ จึงทำให้ทุกอย่างต้องถูกยกเลิก ซึ่งจากรายงานที่ได้รับมา ทางสายตรวจของกองเซ็นเซอร์ได้เดินทางไประงับการฉายหนังเรื่องนี้ ซึ่งเป็นการฉายเพื่อชมเป็นการภายในที่โรงภาพยนตร์แห่งหนึ่ง เนื่องจากตัวหนังยังไม่ผ่านเซ็นเซอร์ และพอส่งไปเซ็นเซอร์ ก็ปรากฏว่าตัวหนังไม่ผ่านเซ็นเซอร์

ซึ่งในขณะเดียวกัน มีรายงานถึงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ออกฉายไปเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ต้องประสบปัญหากับการเซ็นเซอร์เช่นเดียวกัน โดยเนื่องจากกำหนดฉายของภาพยนตร์อยู่ในช่วงที่มีความลักลั่น เพราะเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่าน ทำให้ทางเจ้าของหนังภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวได้นำหนังออกฉายโดยไม่ได้ส่งเซ็นเซอร์ ซึ่งทางเซ็นเซอร์ได้ทราบเข้า และเข้าไปทำการตรวจสอบในโรงภาพยนตร์ ผลจึงทำให้ทางเจ้าของหนังถูกเซ็นเซอร์ปรับเป็นเงินหลายแสนบาท แม้ว่าเมื่อต้นเดือนมิถุนายน นายปรีชา กันธิยะ จะได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “อย่างไรก็ตาม ในช่วง 90 วันต่อจากนี้ไป เป็นช่วงเรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมารับทราบข้อมูลและแนวทางปฏิบัติงาน หากมีผู้ฝ่าฝืนหรือทำผิดกฎหมายโดยไม่เจตนา สวช.จะต้องเข้าไปตักเตือนและทำความเข้าใจเท่านั้น ยังไม่มีการลงโทษรุนแรง” (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ 31 พฤษภาคม 2551) ก็ตามที

ตอนนี้สถานการณ์ในวงการหนังอยู่ในช่วงตึงเครียด เพราะกฎกระทรวงที่ว่าด้วยการจัดเรตติ้งยังไม่มีวี่แววว่าจะได้เข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ขณะที่คณะรัฐมนตรีชุดนี้ ก็มีวี่แววสูงมากว่าจะได้ปฏิบัติงานต่อไปอีกไม่นานนัก ซึ่งอาจส่งผลให้กฎกระทรวงฉบับนี้ยังคงค้างเติ่งอยู่ต่อไป)

ขณะที่การเซ็นเซอร์โดยกระทรวงวัฒนธรรมก็เป็นที่รู้กันว่ามีความเข้มงวดอย่างน่ากลัว ซึ่งตอนนี้ ค่ายหนังบางค่าย ได้ทำการถอดหนังที่เป็นหนังแนวแอ๊คชั่น, ทริลเลอร์ หรือหนังที่มีฉากที่ “คาดว่าน่าจะรุนแรงในสายตาของกองเซ็นเซอร์” ออกจากโปรแกรมไปก่อน เพื่อรอดูสถานการณ์

รายงานโดย : เครือข่ายคนดูหนังแห่งประเทศไทย

มีปัญหา ความขับข้องใจ เกี่ยวกับการบังคับใช้พระราชบัญญัติภาพยนตร์ พ.ศ. 2551 หรือพบเห็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรม พบเห็นการเซ็นเซอร์ที่เกินกว่าเหตุในภาพยนตร์เรื่องใด หรือใครมีข่าวสารใดๆ เกี่ยวกับกรณีนี้ สามารถแจ้งแก่เราได้ที่อีเมล์ movieaudiencenetwork@gmail.com

10 responses

  1. Funny Games ที่เลื่อนไปน่าจะเพราะรอดูสถานการณ์สินะครับ
    เศร้าใจจริงๆ

    คนพวกนี้นี่มันมักง่ายนัก ยังไม่ออกเรื่องเรต ก็เลยนั่งเซ็นไปพลางๆก่อน
    เฮ้อ…

    สงสารหนังเรื่องที่ถูกปรับหลายแสนบาทด้วย

  2. แต่ Summer Palace หรือ Wanted ก็ได้ฉาย(ไม่ได้บอกว่าไม่ควรฉาย) มาตรฐานมันแปลกไหม ?

  3. สงสัยต้องไปซื้อแผ่นผีมาดูแทนแว้ว เซ็งวุ้ย

  4. เห้ยยยยย เอาจนใจได้ครับ ท่าน แล้วพวกเราจะออกมาแสดงความคิดเห็นยังไงกันครับ พวกเราต้องออกมาเคลื่อนไหวกันบ้างแล้วหล่ะครับผมว่า

  5. แผ่นจงเจริญครับแบบนี้พอไหนเรื่องไหนถูกห้ามฉายแผ่นผีเค้าก็เอามาขายเฮกันถ้วนหน้า
    DVD ก็อป FRONTIER(S) ออกมาแล้วครับมี ซับไทยด้วย แต่โดยส่วนตัวผมโหลดมาดูแล้วครับเพราะผมนึกอยู่แล้วว่าถ้าหนังไม่เกิดโรคเลื่อนเรื้องรังก็แบน เลยไม่ลังเลใจทีจะโหลดมาดู(มีซับไทยด้วย) ตัวหนังผมว่าโหดนะครับแต่มันไม่ได้โหดทะลักหนังอะไรเลย

    FUNNY GAMES นยี้ผมก็อยากดูมากๆด้วยละผมว่ามีหวังเลื่อนอีกแหงหรืออาจเป็นรายต่อไปต่อจาก FRONTIER(S)

  6. ประเทศไทยก็ยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป…

  7. ก็หาผลงานกันไป แต่พวกเราเดือนร้อน

    เพราะฉะนั้น “แผ่นผีและ bit จงเจริญครับ”

    “นส. ลัดดา ตั้งสุภาชัย” ผมเกลียดชื่อนี้จริงๆ ให้ตายเถอะ

  8. มาลงความเห็นด้วยคน
    เห็นด้วยกับทุก comment เลย แล้วรัฐฯ จะมาพูดทำไม? เรื่องแผ่นผี แผ่นปลอม
    ในเมื่อกฏหมายบ้านเรายังเป็นแบบนี้อยู่ จะเอาอะไรกับ ครม.เต้าหู้ยี้

  9. แล้วนี่จะดูถูกวิจารณญาณของประชาชนในประเทศนี้ไปถึงไหนกันน่ะ

  10. แผ่น ผี มัน ถึุง มี อยู่ เอา กระทรวงวัฒนธรรม ลอง เอา เวลา ว่าง ๆ ที่ เอา หัว สมอง ไป ใช้ sensor หนัง ที่ มี อยู่ น้อย นิด ไป ช่วย กัน กวาด ล้าง หนัง ผี กว่า ไหม น่า จะ มี ประโยชน์ กลับ ประเทศ ชาติ กว่า เอา หัว สมอง ที่ มี อยู่ น้อย นิด ไป ใช้ sensor หนัง

    อย่างเช่น sensor คนสูบบุรี่ บ้านมันไม่เคยเห็นคนสูบบุรี่ หรือไง คิดได้เนอะ เห้อ น่าอนาถ วงการหนังบ้านเราซะแล มีผู้นำอย่างนี้เดินย้ำอยู่กับที่ไปเหอะ อย่าึิคิดโกอินเตอร์
    ในประเทศจะเอาตัวไม่รอด

ใส่ความเห็น